IP ADDRESS ในคลาสต่างๆ

IP ADDRESS ในคลาสต่างๆ
เพื่อความเป็นระเบียบ ทางองค์กรกลางที่ดูแลเรื่องของ IP Address จึงได้มีการจัดคลาส(Class) หรือหมวดหมู่ของหมายเลข IP Address ไว้ทั้งหมด 5 คลาส โดยคลาสของแอดเดรสจะเป็นตัวกำหนดว่าบิตใดบ้างในหมายเลข IP Address ที่จะต้องถูกใช้เพื่อเป็น Network Address และบิตใดบ้างที่ต้องถูกใช้เพื่อเป็น Host Address นอกจากนั้นคลาสยังเป็นตัวกำหนดอีกด้วยว่า จำนวนของเน็ตเวิร์คเซ็กเมนต์ที่มีได้ในคลาสนั้นๆ มีเท่าไร และจำนวนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถมีได้ภายในเน็ตเวิร์คเซ็กเมนต์นั้นๆ มีเท่าไร 











คลาส A
แอดเดรสในคลาส A จะถูกนำไปกำหนดให้กับระบบเครือข่ายขนาดใหญ่มากที่มีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่เป็นจำนวนมาก ข้อกำหนดของคลาส A มีอยู่ว่า
-                    ไบต์แรกที่อยู่ด้านซ้ายสุด (8 บิต) จะถูกกันไว้เป็น Network Address และสามไบต์
สุดท้ายที่เหลือ(อีก 24 บิต) จะถูกใช้เป็น Host Address
-                    บิตซ้ายสุดในไบต์แรกด้านซ้ายสุดจะต้องมีค่าเป็นศูนย์เสมอ ส่วนอีก 7 บิตที่เหลือ
ในไบต์แรกด้านซ้ายสุดจะถูกใช้คำนวณเป็น Network Address

คลาส B
แอดเดรสในคลาส B มักถูกนำไปกำหนดให้กับระบบเครือข่ายขนาดปานกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ที่มีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่มากพอสมควร ข้อกำหนดของคลาส B มีอยู่ว่า
-                     สองไบต์แรกที่อยู่ด้านซ้ายสุด (16 บิต) จะถูกกันไว้เป็น Network Address และสองไบต์สุดท้ายถัดมา(อีก 16 บิต) จะถูกใช้เป็น Host Address
-                    บิตซ้ายสุดสองบิตแรกในไบต์แรกด้านซ้ายสุดจะต้องมีค่าเป็น 1 0 เสมอ ส่วนอีก 14 บิตที่เหลือในสองไบต์แรกด้านซ้ายสุดจะถูกใช้คำนวณเป็น Network Address




คลาส C
แอดเดรสในคลาส C มักถูกนำไปกำหนดให้กับระบบเครือข่ายขนาดเล็กที่มีจำนวน
เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ไม่มากนัก ข้อกำหนดของคลาส C มีอยู่ว่า
-                     สามไบต์แรกที่อยู่ด้านซ้ายสุด (24 บิต) จะถูกกันไว้เป็น Network Address ส่วนอีก1 ไบต์สุดท้ายที่เหลือ(8 บิต) จะถูกใช้เป็น Host Address
-                    3 บิตซ้ายสุดในไบต์แรกที่อยู่ด้านซ้ายสุดจะต้องมีค่าเป็น 1 1 0 ตามลำดับ ส่วนอีก21 บิตที่เหลือจะถูกใช้คำนวณเป็น Network Address

คลาส D
แอดเดรสในคลาส D จะไม่ถูกนำมาใช้กำหนดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่จะถูกใช้สำหรับการส่งข้อมูลแบบมัลติคาสก์ (Multicast) ของบางแอพพลิเคชั่น
ข้อกำหนดของคลาส D มีอยู่ว่า บิตซ้ายสุด 4 บิตแรกในไบต์ซ้ายสุดจะต้องมีค่าเป็น1 1 1 0 เสมอ ส่วนอีก 28 บิตที่เหลือจะถูกใช้กำหนด แอดเดรสของกลุ่มเครื่องที่ต้องการเข้ามาอยู่ในกลุ่มมัลติคาสก์เดียวกัน (Multicast Group)แอดเดรสในคลาสนี้จะไม่มีการแบ่งแยกว่าบิตไหนเป็น Network Address หรือ HostAddress เราจะสังเกตได้ว่า ไบต์ซ้ายสุดของแอดเดรสในคลาส D จะต้องมีค่าเป็น 224 เสมอ

คลาส E
คลาส E เป็นแอดเดรสที่ถูกสงวนเอาไว้ก่อน ยังไม่ได้ถูกใช้งานจริง แต่อาจถูกใช้ในอนาคต ข้อกำหนดมีอยู่ว่า 4 บิตซ้ายสุดในไบต์แรกด้านซ้ายจะต้องมีค่าเป็น 1 1 1 1

วิธีการสังเกตอย่างรวดเร็วว่า IP Address ที่ได้มาอยู่คลาสอะไร
-                    ถ้าไบต์แรกด้านซ้ายสุดเป็นตัวเลข 1-126 แสดงว่าเป็นหมายเลข IP Address ที่อยู่ในคลาส A
-                    ถ้าไบต์แรกด้านซ้ายสุดเป็นตัวเลข 128-191 แสดงว่าเป็นหมายเลข IP Address ที่อยู่ในคลาส B
-                    ถ้าไบต์แรกด้านซ้ายสุดเป็นตัวเลข 192-223 แสดงว่าเป็นหมายเลข IP Address ที่อยู่ในคลาส C

Default Subnet Mask ของแต่ละคลาส
IP Address แต่ละคลาสจะมีค่า Subnet Mask เป็นของตนเอง ดังนี้
-                    คลาส A จะมี Subnet Mask เป็น 255.0.0.0
-                    หรือในเลขฐานสองคือ 11111111.00000000.00000000.00000000
-                    คลาส B จะมี Subnet Mask เป็น 255.255.0.0
-                    หรือในเลขฐานสองคือ 11111111. 11111111.00000000.00000000
-                    คลาส C จะมี Subnet Mask เป็น 255.255.255.0

-                    หรือในเลขฐานสองคือ 11111111. 11111111. 11111111.00000000


แบบทดสอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น